ไร้ข่าว 20 ปี โผล่เป็นพ่อดาราดัง! ‘เป็นหนึ่ง ไชยชิต’ ทิ้งชื่อพระเอกหน้าหวานเป็นหนุ่มออฟฟิศ – ภาพ
ไร้ข่าว 20 ปี โผล่เป็นพ่อดาราดัง!
‘เป็นหนึ่ง ไชยชิต’ ทิ้งชื่อพระเอกหน้าหวานเป็นหนุ่มออฟฟิศ
ยังคงจะจำกันได้กับพระเอกหน้าหวานคนนี้ เป็นหนึ่ง ไชยชิต อดีตดารานักแสดงยุค 80-90 ที่ฝากผลงานการแสดงละครไว้กว่า 30 เรื่อง และยังมีภาพยนตร์อีกที่เขาได้ฝากไว้
เป็นหนึ่ง เริ่มเข้าวงการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2525 เริ่มต้นจากการเป็นพระเอกละครเวทีของมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นได้ถูแมวมองชักจูงให้ไปถ่ายแบบ เดินแบบ ไม่นาน เป็นหนึ่ง ก็เข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว
กับการเป็นนักแสดง ผลงานเรื่องแรกคือ เรื่อง ไฟ ละครของทางช่อง 3 ประกบกับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง อี้ รัชนู บุญชูดวง ผลงานละครเรื่องนี้ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาทันที
เพราะเป็นบทเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่หลงรักสาวแก่ หลังจากนั้นเป็นต้นมา เป็นหนึ่ง ก็มีงานละครเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขามีผลงานละครกว่า 30 เรื่อง ขณะที่ผลงานภาพยนตร์ เป็นหนึ่ง ก็ไม่ได้น้อยหน้า
ถูกผู้กำกับฯ ชื่อดังสมัยนั้นทาบทามให้มาแสดงภาพยนตร์อยู่หลายเรื่อง เรื่องที่สร้างชื่อมากที่สุดจนเป็นที่กล่าวขวัญถึงในสมัยนั้นคือเรื่อง ”ผัวเชลย” ของผู้กำกับฯ เพิ่มพล เชยอรุณ พลิกบทบาทในเรื่องนี้ จากบทพระเอกมาเป็นผู้ร้าย
จุดพลิกผันที่ทำให้ เป็นหนึ่ง ต้องห่างหายไปจากวงการบันเทิงในเวลาอันรวดเร็วกว่าที่ควรจะเป็นก็เพราะเขา ต้องการความมั่นคงในชีวิตการงาน เป็นหนึ่ง จึงได้ผันชีวิตตัวเองไปทำงานประจำที่ธนาคารและปัจจุบันเกษียณเรียบร้อยแล้ว
“ผมไม่ได้รับเลยนะ เรื่องล่าสุดก็หลายสิบปีที่แล้ว คุณบอยก็เคยติดต่อมา แต่เราก็อยากอยู่ในความทรงจำว่าเราคือพระเอก แต่ถ้ามีบทที่ดีจริงๆ ที่มันเหมาะสมกับเรา เหมาะกับหน้าที่การงานของเรา
แล้วเรื่องเวลาก็เป็นเรื่องสำคัญ เราไม่อยากจะเป็นภาระของใคร ส่วนถ้าเป็นเรื่องงานการกุศลทำพิธีกร ละครสั้น ก็จะยินดีมากเลย”
และหากบอกว่า เต้ย เป็นหนึ่ง ไชยชิต กับ นนท์ ชานนท์ ริกุลสุรกาน เป็นพ่อลูกกันแล้วล่ะก็ เชื่อได้เลยว่าหลายคนต้องเชื่ออย่างสนทใจแน่นอน เนื่องจากทั้งคู่หน้าตาคล้ายกันมากจริงๆ
ซึ่งแม้ว่าจะเข้าวงการบันเทิงห่างกันหลายสิบปี แต่ระหว่างพระเอกรุ่นใหญ่อย่าง เต้ย เป็นหนึ่ง ที่เข้าวงการบันเทิงเมื่อปี 2525 และห่างหายงานบันเทิงเพราะภารกิจงานประจำรัดตัวในฐานะผู้บริหารองค์กรเอกชน
กับพระเอกรุ่นหลาน นนท์ ชานนท์ ที่เริ่มเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่อง รักแห่งสยาม เมื่อปี พ.ศ. 2550 (ห่างกันประมาณ25 ปี ) ที่หลายคนนั้นพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนจนคิดว่าพ่อกับลูก ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาเฉลยว่าแค่บังเอิญหน้าคล้ายกันเท่านั้น